บริการของกระทรวงอุตสาหกรรม
I. บริการด้านพัฒนาอุตสาหกรรม
1. งานให้บริการ
* ให้บริการในหลายระดับ ทั้งการจัดฝึกอบรมทางเทคนิค
การให้ข้อมูลอุตสาหกรรมและบริการเงินกู้ ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ
*. ให้คำปรึกษาและแนะนำเรื่องการผลิต การจัดการ การออกแบบ การบรรจุหีบห่อและการตลาด
เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม
* มีศูนย์บริการ one-stop service ในเรื่องของการออกใบอนุญาตประกอบกิจการเพื่อความรวดเร็ว
ในการให้บริการแก่ผู้ประกอบการ
2. ส่งเสริมการลงทุน
* เป็นศูนย์กลางส่งเสริมและประสานงานระหว่างผู้ประกอบการไทยและต่างประเทศ
ที่ประสงค์จะหา ผู้ร่วมลงทุนในธุรกิจอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม
* ให้บริการภาคเอกชนในการเลือกและกำหนดโอกาสการลงทุน และอำนวยความสะดวกในการติดต่อ
กับนักลงทุน กระทรวงอุตสาหกรรมมีสำนักงานในต่างประเทศอยู่ 4 แห่ง ที่จะอำนวยความสะดวกให้
ในเรื่องดังกล่าว และพร้อมที่จะช่วยส่งเสริมการติดต่อระหว่างนักธุรกิจของไทยกับนักธุรกิจ
ต่างประเทศให้กว้างขวางขึ้น
3. กำหนดเขตอุตสาหกรรม
*เพื่อลดความหนาแน่นของอุตสาหกรรมทั้งในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
เพื่อให้เกิดการ กระจายรายได้ไปสู่ชนบท กระทรวงอุตสาหกรรมได้จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมขึ้นทั่วประเทศ
นิคม อุตสาหกรรมเหล่านี้มีความพร้อมทางด้านสาธารณูปโภค และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง
ๆ อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังจัดให้มีเขตอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออก ซึ่งแต่ละแห่งให้สิทธิประโยชน์
ด้านภาษีอากรและอำนวยความสะดวกด้านการขออนนุญาตประกอบการต่าง ๆ และสิทธิพิเศษอื่น
ๆ เพื่อจูงใจผู้ประกอบการและสนับสนุนการลงทุน
4. การร่วมลงทุน
* กระทรวงอุตสาหกรรมยินดีจะลงทุนร่วมกับเอกชนในโครงการอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
โดยเฉพาะ อย่างยิ่งในอุตสาหกรรมปิโตรเลียม ปิโตรเคมี และเหมืองแร่
II. บริการด้านพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
การฝึกอบรม
*กระทรวงอุตสาหกรรมจัดหลักสูตรฝึกอบรมในหลาย
ๆ ระดับเป็นประจำ ปีละกว่า 40 หลักสูตร เพื่อ ยกระดับความรู้ ความชำนาญของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในโรงงาน
เจ้าของกิจการและผู้จัดการให้ สูงขึ้น
*จัดฝึกอบรมเพื่อเพิ่มความชำนาญในอุตสาหกรรมสาขาต่าง ๆ อาทิเช่น อุตสาหกรรมโลหะการ
งาน หล่อและงานพิมพ์ อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์กลาส
และอื่น ๆ ซึ่ง กระทรวงอุตสาหกรรมยินดีจัดฝึกอบรมให้เพื่อเป็นบริการแก่ธุรกิจเอกชน
โดยขอให้แจ้งความจำนง มายังกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
*สถาบันฝึกอบรมแห่งใหม่ของกระทรวงอุตสาหกรรมจะจัดการฝึกอบรมหลักสูตรพิเศษ
โดยมุ่งเน้นให้ ผู้รับการฝึกอบรมได้เรียนรู้เทคโนโลยีและเทคนิคประกอบการอุตสาหกรรมที่ก้าวหน้าโดยเฉพาะ
เพื่อ รองรับกับความต้องการแรงงานที่มีฝีมือของภาคอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูง
III. มาตรฐานและคุณภาพ
ปัจจุบันประเทศไทย โดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
ได้ดำเนินการด้านมาตรฐาน และคุณภาพในระดับมาตรฐานสากล เพื่อประโยชน์แก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมของไทยดังนี้
1. การรับรองคุณภาพ
*ให้การรับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์โดยการออกใบอนุญาตแสดงเครื่องหมายมาตรฐาน
* ให้การรับรองระบบคุณภาพ มอก.-ISO 9000
* ให้การรับรองห้องปฏิบัติการภายในประเทศ
2. การทดสอบ
* ให้บริการทดสอบแก่อุตสาหกรรม เพื่อรองรับคุณภาพของผลิตภัณฑ์และพัฒนามาตรฐาน
ผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรมใหม่ ๆ
3. การฝึกอบรม
* ให้บริการจัดฝึกอบรม เรื่องมาตรฐานและคุณภาพ ISO
9000 และการรับรองห้องปฏิบัติการแก่ ทั้งภาครัฐบาลและเอกชน
4. การส่งเสริมมาตรฐานและอุตสาหกรรม
*ส่งเสิรมให้มีการนำมาตรฐานและคุณภาพไปใช้อย่างกว้างขวาง
*ส่งเสริมผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และกระบวนการผลิตที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
5. กิจการในอนาคต
* ส่งเสริมและให้การรับรองระบบการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมของโรงงาน
(ISO 14000)
* โครงการฉลากสีเขียวเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
* การให้การรับรองหน่วยงานที่จะดำเนินการรับรองคุณภาพตามมาตรฐาน ISO 9000
และ
ISO 14000
* เป็นศูนย์ตอบข้อซักถามของความตกลง 2 ฉบับ คือ Agreement on Technical Barriers
to Trade และ Agreement on Phytosanitary and Sanitary ให้กับสมาชิก WTO
รวมทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนในประเทศ
IV. สิ่งแวดล้อม
กระทรวงอุตสาหกรรมตระหนักถึงความสำคัญของมาตรการที่จะอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
จึงกำหนดมาตร การใหม่ ๆ เพื่อแก้ไขมลภาวะอันเกิดจากโรงงานอุตสาหกรรม ดังนี้
1. ข้อมูลสนเทศ
*จัดระบบข้อมูลเกี่ยวกับของเสีย
* จัดระบบข้อมูลเกี่ยวกับการควบคุมและการป้องกันปัญหาด้านมลพิษอุตสาหกรรม
2. การให้การส่งเสริมและบริการ
* การให้บริการบำบัดกากอุตสาหกรรมแก่ผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรม
* ส่งเสริมให้มีการลงทุนในธุรกิจสิ่งแวดล้อม
* จัดโครงการเพื่อพัฒนาทักษะและความชำนาญของภาครัฐในเรื่องของเทคโนโลยีที่สะอาด
* การตรวจสอบมลพิษจากท่อไอเสียของยานพาหนะ
V. แร่ธาตุและพลังงาน
กระทรวงอุตสาหกรรมมีนโยบายที่จะพัฒนาทรัพยากรแร่และพลังงานของประเทศด้วยมาตรการ
ต่าง ๆ คือ
1. ด้านการส่งเสริม
*กระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกับบริษัทเอกชน ได้สำรวจและแสวงหาแหล่งปิโตรเลียม
ทั้งในประเทศ และจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น พม่า มาเลเซีย และเวียดนาม เพื่อจัดหาให้มีปริมาณเพียงพอต่อ
ความต้องการของประเทศในอนาคต
* จัดจำหน่ายก๊าซธรรมชาติจากแหล่งในประเทศและจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยลงทุนสร้างท่อส่ง
ก๊าซและจัดส่งให้โรงงานของลูกค้า
* ร่วมลงทุนกับภาคเอกชนจัดตั้งโรงกลั่นน้ำมันในประเทศ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านการ
จัดหาพลังงานของประเทศ
* ส่งเสริมให้มีการนำก๊าซธรรมชาติมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
* ร่วมลงทุนกับประเทศสมาชิกอาเซียน ผลิตปุ๋ยโปแตช จำหน่าายให้แก่ประเทศสมาชิกอาเซียนและ
ใช้ภายในประเทศ
2. ด้านการพัฒนา
* ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในการกำหนดราคาขายปลีกของผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมภายใน
ประเทศให้สอดคล้องกับราคาน้ำมันในตลาดโลก
* กำหนดมาตรการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการพัฒนาและการผลิตพลังงาน
โดยจัดหาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมที่ช่วยลดมลพิษ อาทิเช่น จัดหาน้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่ว
น้ำมันดีเซล ชนิดกำมะถันต่ำ ใช้ในธุรกิจขนส่งและจัดหาน้ำมันเตากำมะถันต่ำเพื่อใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า
เป็นต้น
*สนับสนุนให้มีการขนส่งน้ำมันทางท่อ เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งให้เป็นระบบที่ทันสมัย
มีความปลอดภัยสูง ลดอุบัติเหตุและมลพิษทางอากาศ ทั้งยังช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัด
ในกรุงเทพมหานครและปริมาณฑล
*****************************
|